ถ่ายทอดสด ทรู วิชั่นส์ 61
ผลการเจอกันนัดล่าสุด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 – 1 อาร์เซน่อล
ศึกพรีเมียร์ ลีค ฤดูกาลนี้เหลืออีกเพียง 5 นัด ก็จะได้ทีมขึ้นชูถ้วยแชมป์กันแล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าของตำแหน่งจ่าฝูงที่ยังคงรักษาตำแหน่งไว้อย่างเหนียวแน่นจะได้โอกาสเปิดบ้านรับการมาเยือนของอาร์เซน่อล ทีมที่กลายเป็นผู้ท้าชิงอันดับสองในระยะเวลาเพียงข้ามเดือน
ทั้งคู่พบกันมาในทุกรายการทั้งหมด 198 นัด “ปีศาจแดง” เป็นฝ่ายยัดเยียดความปราชัยให้คู่แข่งได้ถึง 81 นัด ในขณะที่ “ปืนใหญ่” คว้าชัยไปได้ 73 นัดโดยการพบกันที่โรงละครแห่งความฝัน “ยูไนเต็ด” คว้าชัยชนะในบ้านได้ถึง 54 นัดมีเพียง 17 นัดเท่านั้น ที่ปล่อยให้ “กันเนอร์” บุกมาปล้นชัยชนะในถิ่นกลับไปได้
ในการพบกันนัดแรกเมื่อต้นฤดูกาล “ปีศาจแดง” เกือบจะบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับ “ปืนใหญ่” ได้ถึงถิ่น “เอมิเรตส์” หลังจากที่ “กัลลาส” ส่งบอลเข้าประตูตัวเอง ก่อนที่ “ฟาเบรกัส” จะยิงไล่ตีเสมอมาเป็น 1-1 และก่อนหมดเวลาเพียง 8 นาที “โรนัลโด้” ก็แผลงฤทธิ์ซัดให้ “ยูไนเต็ด” ออกนำไปเป็น 1-2 แต่แล้ว “กัลลาส” ก็แก้ตัวสำเร็จด้วยการโหม่งประตูตีเสมอในช่วงทดเจ็บ จนทำให้เสมอกันไป 2-2
นอกจากเกมลีคที่ทั้งคู่ต้องพบกันในฤดูกาลนี้แล้ว ทั้งคู่ยังโคจรมาพบกันอีกในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 5 โดยมี “โอลด์ แทรฟฟอร์ด” เป็นสังเวียนศึกและก็เป็นฝ่าย “ยูไนเต็ด” ที่เปิดบ้านยำใหญ่ “ปืนโต” ไปถึง 4-0 จากผลงานระดับ “มาสเตอร์พีซ” ของ “เฟลทเชอร์” ที่จัดการส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายถึงสองครั้งสองครารวมทั้ง “รูนี่ย์” และ “นานี่” ที่ช่วยกันส่องอีกคนละประตู
ทักทายเจ้าบ้าน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีอาการสะดุดเล็กน้อย เมื่อทำได้แค่เสมอในการบุกไปเยือน “มิดเดิลสโบรซ์” ทำให้ระยะห่างจากรองจ่าฝูงเหลือเพียง 3 คะแนนเท่านั้นแต่ก็สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกครั้ง ด้วยการเปิดบ้านอัด “โรม่า” ในศึกยุโรปกลางสัปดาห์จนสามารถผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ
นัดนี้เจ้าบ้าน จะยังไม่สามารถใช้งาน “วิดิช” ปราการหลังตัวเก่งที่เจ็บบริเวณหัวเข่า และยังต้องพักอีก 1-2 สัปดาห์รวมทั้ง “นานี่” “ซาฮา” และ “เฟลทเชอร์” ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ก่อนหน้านี้แต่จะได้ทั้ง “เนวิลล์” และ “ซิลแวสตร์” เป็นตัวเลือกในแนวรับ หลังกลับมาลงเล่นชุดใหญ่ได้อีกครั้งในนัดล่าสุดโดยนัดนี้อาจเป็นเกมแรกของฤดูกาลที่กัปตันตัวจริง จะได้สวมปอกแขนนำลูกทีมลงสู่สนามนอกจากนั้นทั้ง “เอฟร่า” “รูนี่ย์” และ “โรนัลโด้” ที่ได้พักแข้งในเกมกลางสัปดาห์ ก็น่าจะได้ลงเล่นตั้งแต่เริ่มเกม
ต้อนรับทีมเยือน
อาร์เซน่อล ตกอยู่ในช่วงอาการเป๋อย่างหนัก เมื่อตลอดเดือนมีนาคม วนเวียนอยู่กันการเสมอซะเป็นส่วนใหญ่จนทำให้จาก “ตำแหน่งจ่าฝูง” ต้องตกลงไปอยู่ใน “ตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับสอง” แถมยังพลาดท่าถูกตกรอบศึกฟุตบอลยุโรป ด้วยน้ำมือของ “ลิเวอร์พูล” อย่างมีข้อครหาอีกด้วย
ทางด้านทีมเยือน จะไม่มี “ฟลามินี่” ลงทำเกมในแดนกลางอย่างแน่นอน จากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า และ “ซานญ่า” ก็ยังไม่น่าจะพร้อมลงมาช่วยเกมรับของทีมในเกมนี้รวมไปถึง “โรซิคกี้” และ “เอดูอาร์โด้” ที่เจ็บยาวทั้งซีซั่นไปแล้วแถม “ดิอาบี้” ยังต้องชดใช้โทษใบเหลืองต่อไปอีกนัด
แม้ “อาร์เซน่อล” จะสามารถเอาชนะ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ได้ทั้งไปและกลับ เมื่อฤดูกาลที่แล้วแต่สำหรับฤดูกาลนี้อะไรก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วเมื่อ “ปีศาจแดง” กำลังอยู่ในช่วงพีคสุดๆ เปี่ยมไปด้วยเกมรับที่แข็งแกร่ง และเกมรุกที่ดุดันต่างจาก “ปืนใหญ่” ที่ช่วงหลังเอาแต่จมอยู่กับอาการเสมอเป็นส่วนใหญ่ แถมยังไม่มีทีท่าจะฟื้นตัวอีกด้วยหากเกมรับของ “กันเนอร์” ที่เสียประตูมาทุกนัดใน 6 เกมหลังสุด ยังคงหาฟอร์มเก่งของตัวเองไม่เจอมีสิทธิโดนเกมรุกสายฟ้าแลบของ “ยูไนเต็ด” เล่นงานเฉกเช่นในศึกเอฟเอ คัพ เป็นแน่
chokechone11
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC