หลังจากพลาดท่าเสียแชมป์ให้แมนฯ ซิตี้ไปในหนก่อน รวมไปถึงถูกบาร์ซ่าข่มมิด ด้วยรูปแบบการเล่นติกิตากะ ทำให้มาปีนี้ป๋าเฟอร์กี้ปรับดีไซน์การเล่นใหม่ เน้นประสบการณ์จากนักเตะที่อายุมาก (32+) เพราะไม่อยากเสียแชมป์ด้วยผลต่างประตูได้เสีย ถ้ามีตัวเก๋าอยู่ในทีมน่าจะส่งผลดีกว่า (อันนี้หมายถึงป๋าแกอาจจะคิดแบบนี้นะหลังจากเห็นมาหลายนัดในปีนี้) และสไตล์การเล่นแบบเน้นครองบอลในแดนกลาง ด้วยการปรับกลยุทธ์เปลี่ยนแผนการเล่นมาในแบบ “แพนด้าสไตล์”
แพนด้าสไตล์ คืออะไร อาจจะพอนิยามได้ว่า การเล่นในรูปแบบเน้นการครองบอลในแดนกลาง (แต่บอลไม่ขึ้นหน้า ถ้าขึ้นก็เน้นสาดยาวออกปีก) ด้วยนักเตะที่มีแต่ความเก๋า (ขาดความสด วิ่งตามคนอื่นไม่ทัน) เหล่าแฟนผีที่เฝ้ามองทีม ก็มองด้วยสายตาเป็นกังวลปนเครียด แถมละเหี่ยใจทุกครั้ง ที่เห็นพวกเหล่าอาวุโสทั้งหลายติ๊ดฉึ้ง ไปมา สุดท้ายเสียบอลวิ่งน้ำบาน ลงไม่ทันเสียประตูบ่อยๆ จนขอบตาเริ่มคล้ำเป็นแพนด้าจนทุกวันนี้ (ฮ่า ฮ่า ฮ่า)
โดยลืมไปว่า ต้นปีที่แล้ว รูปแบบการเล่นที่ฉับไวเปี่ยมประสิทธิภาพ จนผลการแข่งไฉไลเป็นบ้า นั่นคือจุดที่แข็งแกร่งของปีศาจแดงทั้งการเล่นเร็ว ชิ่งหนึ่งสองในแดนกลาง รวมไปถึงการพาบอลออกปีก เข้ามาจบสกอร์ ล้วนแต่ทำได้เยี่ยม ในเมื่อปีนี้ได้อาวุธหนักเข้ามาสเริมทีมทั้งสองคน ชินจิ คากาวะ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยิ่งตอกย้ำถึงระบบการเล่นข้างต้นให้เปี่ยมประสิทธิภาพหนักขึ้นไปอีก
แต่ด้วยความที่คุณป๋าเฟอร์กี้ แกคงคิดมากจนเกินไป การเล่นแบบปลอดภัยด้วยนักเตะที่เก๋า รวมไปถึงการครองบอลในแดนกลาง ทำให้รูปแบบการเข้าโจมตีนั้นช้าเกินไป ยิ่งถ้าโดนเพรสซิ่งไวไว นักเตะเก๋าๆ เหล่านั้นก็ไม่สามารถคายพิษสงอะไรได้มาก ถ้าไม่ถูกบีบให้เสียบอล ก็เน้นจ่ายคืนหลังด้วยความปลอดภัย ทำให้การเล่นเคาท์เตอร์แอทแท็คแบบโฉบเฉี่ยวแทบไม่มีให้เห็น ทั้งที่เป็นจุดเด่นของแมนยูมาช้านาน รวมไปถึงการชิ่งสั้นหนึ่งสองสอดทะลุเข้าเขตโทษก็เริ่มหายไป ทั้งๆ ที่แมนยูอุดมไปด้วยแข้งยังบลัดสายเลือดใหม่เต็มทีมไปหมด
เคลฟเวอร์ลีย์ ทันนิคลิฟ พาเวล อันแดร์สัน คากาวะ พวกเขาทั้งห้าคน พร้อมที่จะสร้างความแตกต่างในแผงกลางได้ดีกว่าเดิม แม้ความเก๋าอาจจะเทียบไม่ได้ แต่พวกนี้กล้าเล่น กล้าลาก กล้าลุย ตามสไตล์วัยห้าว ที่อาจจะทำให้ปีกสองข้างของแมนยูกลับชาติมาเกิดใหม่ วาเลนเซียที่มาตรฐานคงเส้นคงวาอยู่แล้ว อาจจะดีขึ้นไปอีก นานี่ที่มัวแต่ครองบอลรอจังหวะ อาจจะมีตัวช่วยเสริมขึ้นมาเคาะสั้นหนึ่งสองมากกว่าเดิม จนอวตารร่างกลับมาใหม่ และแดนหน้าทั้งรูนี่ย์และฟาน เพอร์ซี่ คงทำงานได้ง่ายขึ้นถ้ามีตัวสอดประสาน ขยับเคลื่อนที่ขึ้นมาช่วยได้มากมากกว่าเดิม
ความเก๋า คงยังจำเป็นเสมอยามที่ต้องเป็นตัวชี้ผลการแข่งขัน แต่คงไม่ใช่ส่งเก๋าเกือบครึ่งค่อนทีม แล้วเน้นเคาะบอลไปมาให้เป็น แพนด้าสไตล์ แม้หนทางการแข่งยังอีกยาวไกล แต่ในเมื่อคู่แข่งตอนนี้ขยับมาตรฐานการเล่นขึ้นไปอีกขึ้น ด้วยการเล่นที่รวดเร็ว เคลื่อนที่พร้อมๆ กัน
หากแต่ถ้าป๋าแกยังเน้นช้าๆ เน้นชัวร์ๆ ไม่เสี่ยงรุกขึ้นไป คงยากที่จะเจาะเข้าไปทำประตู เพราะชัยชนะตัดสินที่ใครยิงประตูได้มากกว่า ไม่ใช่ว่าใครต่อบอลครองบอลได้มากกว่า ครั้งหนึ่งเกือบทุกทีมในพรีเมียร์ลีก ครั้นคร้ามการเล่นเคาท์เตอร์แอทแท็คของแมนยูมาก จนไม่กล้าดันขึ้นสูง หรือเน้นรุกมาก ยิ่งรุกมากก็โดนทีเด็ดแมนยูเข้าไปจนอ่วม (แต่ก็มีบ้างที่รุกขึ้นมาแล้วทำแมนยูหน้าหงาย) แต่ทุกวันนี้แทบไม่มีใครกลัวแมนยูอีกแล้ว ไม่ว่าจะบอลแดนกลางหรือเคาท์เตอร์ ที่กำชัยชนะมาได้เพราะกองหน้าที่คมกริบอย่างฟาน เพอร์ซี่ เท่านั้น ลองนับๆ ดูโอกาสขึ้นเกมส์รุกที่จบด้วยสกอร์ ยังน้อยกว่าโอกาสที่โดนเกมส์รุก (คู่แข่ง) แล้วจบด้วยสกอร์เสียอีก เพราะตอนนี้คู่แข่งแทบไม่กลัวแมนยูอีกแล้ว ปล่อยให้ครองบอลไปเหอะ สักพักเดี๋ยวก็เสียเอง หรือไม่ก็เปิดโด่งข้ามแดนกลางไปหาปีกวัดเอาเอง ถ้าแมนยูไม่ยกมาตรฐานของตัวเองให้ขึ้นมาดีเหมือนเก่า รับรองว่าไม่เพียงแค่คู่แข่งแย่งแชมป์อย่างเชลซี แมนฯ ซิตี้ และอาร์เซน่อลเท่านั้น ที่จะทำให้เหนื่อย แต่อีก 16 ทีมที่เหลือ ถ้าใครจังหวะคมกว่ารับรองฝันถึงแต้มในการเล่นกับแมนยูได้แน่นอน
เพราะตอนนี้แมนยูในระบบการเล่น ยังเลือกไม่ถูกว่าจะเอาแบบไหน จะ “เก๋าเข้ม เน้นช้า ออกปีกชัวร์” หรือ “ว่องไว ส่ายส่อง สอดประสาน” ป๋าเฟอร์กี้ก็ยังเลือกไม่ถูก หนึ่งเพราะถูกใจนักเตะแข้งเก๋า (แต่เคยปรามาสคนอื่นว่า ไม่มีทางได้แชมป์เพราะนักเตะที่อายุมาก) สองคิดมากเกินเหตุกับ สองนักเตะใหม่อย่าง คากาวะกับฟาน เพอร์ซี่ จนอยากปรับระบบเหมือนเคสของเวร่อน ทั้งๆ ที่ถ้าไม่ปรับอะไรเลยจับทั้งคู่ลองเล่นในสไตล์ 4-4-2 สัก สี่ซ้าห้านัดดูว่าเวิร์คหรือเปล่าค่อยเปลี่ยน
แฟนๆ แมนยูคงเห็นแล้วว่า ถ้าทั้ง เคลฟเวอร์ลีย์ คากาวะ อันแดร์สัน รูนี่ย์ ฟาน เพอร์ซี ทั้ง5 คนนี้เล่นร่วมกันแล้วสะแด่วแห้วแค่ไหน อีกหนึ่งโควต้า อาจจะเตรียมไว้ให้ กลางตัวรับหรือปีกด้านกว้าง ยังได้เสมอ…
สุดท้ายก็แค่อยากให้ป๋ากินไทลินอลซะ จะได้ไม่ปวดหัวคิดมากเกินเหตุ นักเตะเจ๋งๆ ก็มีพร้อมเทียบเท่าคนอื่น แต่ที่ป๋าเยอะกว่าคือ “การคิดมากเกิ้นนนนน”
Akillis
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC